ปกติแล้ว เวลาเราจะทำ SEO อีกสิ่งหนึ่งที่จำเป็นอย่างมากคือการรู้จุดประสงค์ในการค้นหาของผู้ใช้งาน หรือที่เราเรียกว่า Search Intent ซึ่งนี่เป็นเรื่องที่หลาย ๆ คนยังไม่เข้าใจถึงประโยชน์และการทำงานของมัน วันนี้ ผมจะพามารู้จักกับ Search Intent กันครับ
Search Intent คืออะไร?
Search Intent คือ จุดประสงค์ในการค้นหาของผู้ใช้งาน ผู้ใช้งานเข้ามาค้นหาคำ ๆ นั้นใน Google เพื่อต้องการผลลัพธ์ในการค้นหาไม่ว่าจะเป็น การหาข้อมูลว่าเรื่องเหล่านั้นคืออะไร, สามารถสั่งซื้อสินค้าได้จากช่องทางไหน Google ก็แสดงผลลัพธ์ในการค้นหาได้หลายรูปแบบครับ ไม่ว่าจะเป็น ข้อมูลที่เป็น Text, รูปภาพ, วิดีโอ รวมไปถึงแผนที่ของสถานที่นั้น ๆ
ประเภทของ Search Intent มีกี่ประเภท
ประเภทของ Search Intent นั้นมีด้วยกันทั้งหมด 4 รูปแบบ ดังนี้
- ค้นหาข้อมูล (Informational)
ผู้ใช้งานต้องการเข้ามาค้นหาข้อมูลที่พวกเขาต้องการบน Google โดยจะมีการถามด้วยกันหลายแบบ ไม่ว่าจะเป็นการพิมพ์ด้วยคำคำนั้นลงไป หรือพิมพ์เป็นประโยคคำถามเลย ซึ่ง Search Intent รูปแบบนี้ เป็นรูปแบบที่มีการใช้งานเยอะมากที่สุดบน Googleแต่การค้นหาของแต่ละคนนั้นไม่เหมือนกัน และเรื่องที่ต้องการจริง ๆ นั้น Google ก็ยังไม่สามารถรู้ได้ว่าผู้ใช้งานต้องการอะไร อย่างบางคนมาค้นหาด้วยคำว่า “สีทาบ้าน” สิ่งที่ผู้ใช้งานต้องการอาจจะแค่อยากรู้ว่ามียี่ห้ออะไรบ้าง แต่ Google ก็แสดงผลลัพธ์ตามตัวอย่างภาพด้านล่างก็ได้
Google พยายามอยากให้ผู้ใช้งานได้รับผลลัพธ์ที่ชัดเจนและตรงกับจุดประสงค์ของตัวเองมากที่สุด ในอนาคตอาจมีการพัฒนามาให้รองรับในจุดนี้มากขึ้นได้ - ค้นหาเว็บไซต์ (Navigation)
ผู้ใช้งานบางรายต้องการเข้าไปยังเว็บไซต์ที่พวกเขารู้จักกันดีอยู่แล้ว แต่อาจจะจำ URL ไม่ได้ จำชื่อเว็บไซต์ไม่ได้ หรืออาจจำได้แค่บางตัวอักษรเท่านั้น พวกเขาจึงต้องมาค้นหาใน Google ซึ่งส่วนใหญ่แล้วจะเป็นเว็บไซต์ที่มีชื่อแบรนด์ที่จดจำได้ เช่น Facebook, Twitter เป็นต้น หรือไปรษณีย์ไทย ที่คนต้องการเข้าไปเช็กเลขพัสดุ ก็ใช้การค้นหาใน Google เพื่อเข้าไปยังเว็บไซต์ของไปรษณีย์ไทยได้เลย - ค้นหาเพื่อตัดสินใจ (Commercial Investigation)
ผู้ใช้งานที่ต้องการจะซื้อสินค้า แต่ก่อนจะซื้อ ต้องการดูรีวิวก่อน เพื่อประกอบการตัดสินใจ การค้นหาในรูปแบบนี้จะเกี่ยวกับการดูรีวิว เปรียบเทียบสินค้า ยกตัวอย่างการดูรีวิวร้านอาหาร, ที่พัก และสถานที่ท่องเที่ยว - ค้นหาเพื่อซื้อ (Transactional)
ผู้ใช้งานค้นหาเพื่อซื้อ เมื่อมาถึงพาร์ทนี้ แสดงว่าผู้ใช้งานค้นหาเพื่อตัดสินใจซื้อหรือตัดสินใจใช้บริการในทันที ไม่ได้ต้องการแค่จะดูรีวิวเพียงเท่านั้น เช่น การซื้อโทรศัพท์มือถือ, การจองโรงแรม เป็นต้น
ทำคอนเทนต์ให้ตรงกับ Search Intent ได้อย่างไร
- วิเคราะห์ Search Intent ก่อน
ก่อนอื่นเลยต้องวิเคราะห์ก่อนว่า ผู้ใช้งานที่จะค้นหาบนหน้า Google แล้วมาเจอคุณนั้นค้นหา หรือ กลุ่มเป้าหมายที่ต้องการจะเข้าไปนั้นด้วย Search Intent ประเภทใด เพราะแต่ละคนนั้นใช้คำและมีความต้องการที่ไม่เหมือนกัน - ตรวจเช็ก SERPs ก่อนทำคอนเทนต์ทุกครั้ง
ก่อนทำ Search Intent คุณต้องทำความรู้จักกับผลลัพธ์ของคอนเทนต์ที่จะปรากฏบน SERPs ก่อนทุกครั้ง ดังนี้- ต้องดูว่าลักษณะของคอนเทนต์ที่ปรากฏเมื่อค้นหาคำนั้น ออกมาในรูปแบบใด ยกตัวอย่างเช่น บล็อกหรือวิดีโอ เป็นต้น
– ประเภทของคอนเทนต์ที่แสดงนั้น เป็นบล็อกหรือเว็บไซต์ E-commerce - เลือกประเภทของคอนเทนต์
ควรเลือกประเภทของคอนเทนต์ที่จะแสดงให้อย่างชัดเจน ดังนี้
ค้นหาข้อมูล – คอนเทนต์ประเภทบล็อก
ค้นหาเพื่อตัดสินใจ – คอนเทนต์ประเภทบล็อก, หน้าเว็บไซต์ปกติ
ค้นหาเพื่อซื้อ – คอนเทนต์หน้าผลิตภัณฑ์, หมวดหมู่สินค้า, Landing Page - หา Keyword ที่ผู้ใช้งานจะค้นหา
ลักษณะของ Keyword ที่ผู้ใช้งานใช้ค้นหาช่วยแยกจุดประสงค์ในการค้นหาได้ อย่างเช่น วิธีการ แสดงว่าผู้ใช้ต้องการค้นหาข้อมูล หรือ ซื้อโทรศัพท์ แสดงว่าผู้ใช้ต้องการค้นหาเพื่อซื้อ เป็นต้น
ในท้ายที่สุดแล้ว การทำ Search Intent สำหรับผมแล้ว ยังเป็นเรื่องที่สำคัญมากสำหรับการทำ SEO นะครับ เพราะถ้าหากคุณรู้จุดประสงค์ของผู้ใช้งานที่กำลังค้นหา และคอนเทนต์ของคุณนั้นตอบโจทย์การค้นหาของเขาจริง ๆ ผู้ใช้งานอาจจะคลิกเข้ามาอ่านคอนเทนต์ของคุณมากขึ้น อันดับ SEO ของคุณก็อาจจะดีขึ้นด้วยครับ