รู้หรือไม่ครับ ว่าการทำอะไรสักอย่างบนหน้าเว็บไซต์หรือบน Schema นั้นส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพของ SEO ทั้งสิ้น ก่อนหน้านี้ผมได้ไปอ่านบทความหนึ่ง ที่พูดถึงการใส่ราคาและรีวิวบน Schema ในหน้าสินค้า ที่อาจส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพของ SEO เช่นกัน ซึ่งการทดสอบนั้นเป็นอย่างไร ผมจะมาสรุปในบทความนี้ครับ
ก่อนหน้านี้ Google ได้จำกัดประเภทของ Rich Snippet หรือรายละเอียดบนหน้าเว็บไซต์ที่จะแสดงบนหน้า Google ออกไป เพื่อให้สามารถแสดงผลลัพธ์ในแบบที่ต้องการได้เพียงครั้งเดียว ทำให้ต้องมีการตัดสินใจและวางโครงสร้างใหม่ที่ซับซ้อนมากขึ้น แม้ความนิยมในการแสดง Rich Snippet บนหน้าผลการค้นหา ในรูปแบบของ FAQ จะมีมาก แต่ก็ส่งผลเสียมากเช่นกัน จะดีกว่าไหม หากเปลี่ยนการแสดงผลมาเป็นรีวิวหรือราคาของสินค้าแทน
เว็บไซต์ E-commerce เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างที่ดี เนื่องจากผู้ใช้ต้องการเปรียบเทียบผลลัพธ์หนึ่งกับอีกผลลัพธ์หนึ่ง ก่อนตัดสินใจคลิกเข้าไป ดังนั้นรีวิวและราคา เป็นหนึ่งปัจจัยที่ทำให้สินค้าของคุณน่าสนใจและปรับปรุงอัตราการคลิกได้เป็นอย่างดี ลูกค้า E-commerce รายหนึ่งมีหน้าสินค้าที่มีประสิทธิภาพต่ำกว่าหน้าอื่น ๆ ที่มีการสร้างเทมเพลตไว้ ซึ่งจากที่ได้สังเกต ในหน้าสินค้าที่มีประสิทธิภาพต่ำหน้านั้น ไม่ได้มีการทำข้อมูลโครสร้างเว็บไซต์ไว้ การเพิ่มรีวิวที่ดีและข้อมูลราคา จะเป็นโอกาสที่ดีในการเพิ่มประสิทธิภาพในการทำ SEO ให้กับหน้าสินค้าชิ้นนั้น
การทดสอบที่ได้ลองทำคือการเพิ่มข้อมูลรีวิวลงในหน้าสินค้า และเพิ่มข้อมูลที่มีโครงสร้างด้วย JSON-LD เพื่อให้รีวิวและราคาแสดงบนหน้าการค้นหา
และผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นหลังจากที่เพิ่มรีวิวและราคาเข้าไป
ผลที่ได้คือ ไม่สามารถสรุปได้ หรือหมายความว่า ไม่ได้มีผลกระทบใด ๆ ต่อ Organic Traffic จึงเกิดเป็นข้อสงสัยเพิ่มเติมว่า ทำไมไม่ได้ผลลัพธ์ตามที่คาดไว้ หรือจริง ๆ แล้ว ไม่จำเป็นต้องแสดงราคาบนหน้าการค้นหา เพราะเมื่อเทียบกับคู่แข่งแล้ว กลุ่มของผู้ซื้ออาจจะมีกำลังการซื้อแตกต่างกัน
จึงได้มีการทำการทดสอบครั้งที่ 2 โดยมีการเพิ่มข้อมูลเข้าไปเพียงแค่รีวิว และตั้งสมมติฐานว่าการที่ไม่มีราคาบนหน้าการค้นหา ทำให้ผู้ค้นหามีโอกาสน้อยที่จะคลิกเข้ามาจากหน้าการค้นหา
และผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นหลังจากทำการทดสอบครั้งที่ 2 ก็คือ ผลลัพธ์ของ Organic Traffic ในหน้าที่ทำการทดสอบ เพิ่มขึ้นประมาณ 20% ทำให้ทราบว่า ราคาไม่ได้ทำให้อัตราการคลิกเพิ่มขึ้น เพราะผู้ซื้อ อาจเห็นราคาแล้ว ทำให้ตัดสินใจได้ง่ายขึ้น หากเขาไม่มีกำลังซื้อ ก็จะไม่คลิกเข้ามาเพื่อดูสินค้าต่อไป
ผลสรุปจากการทดสอบครั้งนี้ ทำให้ได้บทเรียนสำคัญ 2 บทเรียนนั่นก็คือ
- ไม่มีแนวทางปฏิบัติไหนดีที่สุด เพราะบริบทก็มีความสำคัญเช่นกัน
- แม้กระทั่งการทดสอบแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดสำหรับการทำ SEO แต่ก็ไม่สามารถประเมินค่าได้ ถ้าเราไม่ได้ทำการทดสอบกับเว็บไซต์ของตัวเอง หากไม่ได้มีการทดสอบด้วยตัวเอง ก็ไม่รู้ได้เลยว่าแนวทางไหนคือแนวทางที่ดีที่สุด
จากบทความที่ผมสรุปมาข้างต้น ผมค่อนข้างเห็นด้วยกับผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น โดยมุมมองของผมเอง ถ้าเกิดผมเป็นลูกค้าที่ต้องการจะซื้อสินค้าสักหนึ่งชิ้น แต่งบผมมีจำกัด เกิดค้นหาสินค้านั้น แล้วผลการค้นหาที่แสดงขึ้นมา เจอสินค้าที่มีราคาแปะไว้อยู่แล้ว แต่ผมงบผมไม่ถึง กับถ้าผมเลื่อนไปเจอสินค้าที่มีรีวิวดี ๆ แต่ไม่รู้ราคา ผมก็อยากที่จะกดเข้าไปในสินค้าที่มีรีวิวดี เพื่อเข้าไปดูรายละเอียดและราคาของสินค้านั้นมากกว่าแน่นอน
แต่ก็อย่างที่บอกตอนท้ายไว้ครับ ว่าไม่มีแนวทางปฏิบัติไหนดีที่สุด ถ้ายังไม่ได้ทำการทดสอบ ดังนั้น ลองนำวิธีนี้ไปปรับใช้กับหน้าสินค้าของคุณเพื่อดูผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นและหาวิธีที่ดีที่สุด เพื่อให้ประสิทธิภาพของ SEO บนเว็บไซต์คุณดีขึ้นนั่นเองครับ